สตม.ลุยจับรวด 5 คดีหนีโกงซุกไทย
พบคดีอื้อ โกงมูลค่ารวมนับหมื่นล้าน !!
วันที่ 6 กันยายน 2561 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม.พร้อมด้วย
พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย
รอง ผบช.สตม.(ปป)
พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร
ผบก.สส.สตม.
พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย
ผบก.ตม.3
พล.ต.ต.กิตติกร บุญสม
ผบก.ตม.4 และ
พ.ต.อ.วิญญู อำนวยสมบัติ
รอง ผบก.สส.สตม.
ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีคนร้ายต่างชาติรายสำคัญ จำนวน 5 คดี
หลังจากที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ฯ ได้เรียกประชุม ผบก.ในสังกัด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้กำชับให้ ทุก บก.ลงสืบสวนหาข่าว และกวาดล้างจับกุมคนร้ายต่างชาติ ที่หลบหนีคดี และอาศัยไทยเป็นพื้นที่หลบซ่อน โดยประสานงานกับหน่วยงานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ สอท. สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ผลการปฏิบัติ สามารถติดตามจับกุม ผู้ต้องหาสัญชาติจีน ซึ่งได้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและฉ้อโกงในสัญญา มูลค่าความเสียหายรวม 3,430 ล้านหยวน (ประมาณ 17,150 ล้านบาท) โดยได้ใช้อำนาจตามกฎหมายคนเข้าเมือง เพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรในฐานะบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ดังนี้
รายที่ 1 :
รวบ 2 จีน โกง 2 พันล้าน คาสระแก้ว
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 บก.สส.สตม. ร่วมกับ ตม.จว.สระแก้ว จับกุมชาวจีน MR.WANG YIJUN (นายหวัง ยี่จุน) อายุ 48 ปี สัญชาติจีน และ MISS.LI GUIXIA (นางสาวหลี่ กุ้ยเซีย) อายุ 50 ปี สัญชาติจีน ซึ่งทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกหมายจับในความผิดฐานฉ้อโกง มูลค่าความเสียหาย 400 ล้านหยวน (ประมาณ 2,000 ล้านบาท) โดยทีมสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ได้สืบสวนและสกัดจับได้ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จว.สระแก้ว ก่อนหลบหนีเข้ากัมพูชา
รายที่ 2 :
จับอีก จีนหนีคดีกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เสียหายกว่า 15,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561 บก.สส.สตม. ร่วมกับ ตม.จว.หนองคาย จับกุม MR.ZHAN GUANGPENG (นายซาน กวงเพง) อายุ 26 ปี สัญชาติจีน ซึ่งทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกหมายจับในความผิดฐานกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ มูลค่าความเสียหาย 3,000 ล้านหยวน (ประมาณ 15,000 ล้านบาท) โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบสวนและสกัดจับได้ที่ด่านพรมแดนถาวร จุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 1 (ขาออก) ต.มีชัย อ.เมือง จว.หนองคาย
รายที่ 3 :
รวบอีก 2 จีน ฉ้อโกงสัญญา
เสียหายกว่า 150 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561 บก.สส.สตม. จับกุม MR ZHOU QING (นายจ้าว ชิง) อายุ 51 ปี สัญชาติจีน และ MR.JIA XI (นายเจีย สี) อายุ 47 ปี สัญชาติจีน ซึ่งทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกหมายจับในความผิดฐานได้กระทำความผิดฉ้อโกงในสัญญา มูลค่าความเสียหาย 30 ล้านหยวน (ประมาณ 150 ล้านบาท) โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้เดินทางมาพำนักอยู่ที่ จว.ชลบุรี จึงได้ติดตามและสามารถสกัดจับได้ที่บริเวณริมถนนหน้าโรงเรียนพัทยาอรุโณทัย หมู่ที่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี
รายที่ 4 :
จับญี่ปุ่น หนีหมายจับคดี
โจรกรรมสินค้าแบรนด์เนม
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 บก.สส.สตม. ร่วมกับ ตม.จว.ชลบุรี
ร่วมกันจับกุม นายฮิโรยูกิ โกโต (MR.HIROYUKI GOTO ) อายุ 40 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการประเทศญี่ปุ่นต้องการตัว ตามหมายจับของศาลจังหวัดฟุกุโอกะ ซึ่งได้ออกหมายจับ นายฮิโรยูกิ โกโต ในความผิดฐานโจรกรรมสินค้าแบรนด์เนม โดยพฤติการณ์ นายฮิโรยูกิ โกโต ได้เดินทางเข้าออกประเทศไทยจำนวนหลายครั้งก่อนหน้านี้ ครั้งล่าสุดได้เดินทาง เข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ผ่านทางช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย และจะครบกำหนดอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรในวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ซึ่งในวันที่นายฮิโรยูกิฯ เดินทางเข้ามายังประเทศไทยนั้น ยังไม่ได้มีการบันทึกเป็นบุคคลเฝ้าดู และเมื่อจะครบกำหนดอนุญาตการให้อยู่ในราชอาณาจักร นายฮิโรยูกิฯ ได้ไปยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรที่ ตม.จว.ชลบุรี แต่ไม่สามารถขออยู่ต่อได้ เนื่องจากได้ถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไว้แล้ว
รายที่ 5 :
จับต่างด้าว 15 ราย หลบหนีเข้าเมือง
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. จับกุมตัว นายศุภเดช นิคมทัศน์ อายุ ๓๔ ปี ในข้อหา "ให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม” และคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 15 คน ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท.
สาขา สายไหมราษฎร์พัฒนา
ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงสายไหม
เขตสายไหม กรุงเทพฯ
การสืบสวนปราบปรามดังกล่าว ทาง พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ฯ ยืนยันว่า ยังคงให้ทุก บก.ทั่วประเทศดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งรวมอาชญากรต่างชาติ ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร
ในช่วงท้าย พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ฯ ฝากมายังพี่น้องประชาชน ในการช่วยสอดส่อง ดูแล เป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสชาวต่างชาติที่มีลักษณะผิดสังเกต รวมถึง ให้ผู้ประกอบการ แจ้งการพักอาศัยชาวต่างชาติ ตามกฎหมาย ต่อหน่วยงาน ตม.ในพื้นที่รับผิดชอบด้วย หากพบพฤติกรรมชาวต่างชาติที่ไม่เหมือนนักท่องเที่ยวหรือไม่มีงานทำแน่นอน หรือน่าสงสัย ขอให้แจ้งข้อมูลสายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ๑๑๗๘
หรือ www.immigration.go.th
“ให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยมาตรฐานสากล ยึดมั่นความมั่นคงเป็นหัวใจในการทำงาน”
“EFFICIENT SERVICE, STANDARDIZED PRACTICE, SECURITY AWARENESS”