เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564
เอไอเอส เปิด 3 ภารกิจเร่งด่วน “ AIS 5G สู้ภัย โควิด-19 ” รับมือการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่อย่างใกล้ชิด ตอกย้ำแนวคิด “ 5G ที่จับต้องได้ เพื่อทุกชีวิต ” โดยนำศักยภาพความพร้อมของระบบการสื่อสาร AIS 5G , AIS Fibre และบริการดิจิทัล เสริมทัพให้กับวงการแพทย์ - สาธารณสุข พร้อมสนับสนุนคนไทยและสังคมไทยทุกภาคส่วน ลดเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสให้คนไทย เข้าถึงบริการทางการแพทย์แบบเท่าเทียม เพื่อประเทศไทยก้าวผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า จากสถานการณ์ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ ต้องทำงานอย่างหนัก ในฐานะด่านหน้าที่ต้องรับมือและเผชิญกับความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโดยตรง AIS จึงเดินหน้าภารกิจเร่งด่วน “ AIS 5G สู้ภัย โควิด-19 ” ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ความเสี่ยงสูงและเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยนำศักยภาพความพร้อมของระบบการสื่อสารที่มี ทั้ง AIS 5G , AIS Fibre และบริการดิจิทัล และความรู้ความเชี่ยวชาญของคนเอไอเอส มาร่วมแรงร่วมใจ ช่วยแก้ปัญหาโควิด-19 เพื่อเสริมศักยภาพวงการแพทย์ สาธารณสุข และสนับสนุนคนไทยและสังคมไทยทุกภาคส่วน ให้ผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยกัน ตอกย้ำแนวคิด “ 5G ที่จับต้องได้ เพื่อทุกชีวิต ” ลดเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสให้คนไทย เข้าถึงบริการทางการแพทย์แบบเท่าเทียม”
AIS 5G สู้ภัย โควิด-19 กับ 3 ภารกิจเร่งด่วนเบื้องต้นร่วมดูแลคนไทย ก้าวผ่านวิกฤตโควิดระลอกใหม่ ภารกิจแรกคือ การติดตั้งเครือข่าย AIS 5G และ AIS Fibre พร้อมสัญญาณ WiFi ใน “ ศูนย์ห่วงใยคนสาคร ” จ.สมุทรสาคร ทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย สนามกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร , อาคารและพื้นที่ปฏิบัติธรรมวัดโกรกกราก และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการบริหารจัดการเพื่อดูแลและสกัดกั้นการระบาด เพื่ออำนวยความสะดวกให้การทำงานของบุคลากรทางการแพทย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยได้มีโอกาสสื่อสารกับครอบครัวให้คลายความกังวล
ภารกิจต่อมาคือ การสนับสนุนซิมการ์ดแบบเติมเงินและ Pocket WiFi ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสมุทรสาคร และอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ที่ลงพื้นที่อย่างหนัก เพื่อให้สามารถติดต่อประสานงานระหว่างกลุ่มแรงงานต่างชาติกับโรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสภากาชาด ในการติดตาม คัดกรอง เฝ้าระวัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่กำลังลงพื้นที่เฝ้าระวังการระบาดผ่าน Application อสม.ออนไลน์ เพื่อดูแลและสนับสนุนให้การทำงานผ่านแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างราบรื่น
ภารกิจสุดท้ายคือ การจัดทีมงานวิศวกรและงานบริการ AIS Fibre รองรับการใช้งานของลูกค้าคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง Work From Home หรือ Learn From Home ให้ลูกค้าสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มประสิทธิภาพและต่อเนื่องทั่วไทย โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ การดูแลสุขอนามัยในการให้บริการลูกค้าบนมาตรฐานความปลอดภัย 100% ของทีมงานช่างติดตั้งอินเทอร์เน็ตอย่างเคร่งครัด ทั้งก่อนและระหว่างเข้าปฏิบัติงาน เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ารับบริการอย่างอุ่นใจเต็มที่ ทั้งนี้รวมไปถึง มอบความอุ่นใจในระหว่างใช้บริการที่ AIS Shop ทั่วประเทศ ที่ใช้มาตรการความปลอดภัยอย่างสูงสุดเช่นกัน
“ ท่ามกลางภาวะวิกฤตนี้ เอไอเอส ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเข้าไปสนับสนุนคนไทยและสังคมไทยทุกภาคส่วน ให้ก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง และขอเป็นตัวแทนภาคเอกชน ขอบคุณและส่งกำลังใจไปยังบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสต. และ อสม.ทุกท่านที่ปฏิบัติงานอย่างทุ่มเท เพื่อเฝ้าระวังและรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดรอบใหม่นี้อย่างเต็มที่ ” นายสมชัย กล่าว