จากกรณีที่ นางปพิชญา เอียดนุ่น มารดาของ พลทหาร ประจักษ์ แก้วคงธรรม เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อขอให้ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการปลดประจำการ พลทหาร ประจักษ์ ฯ พร้อมเรียกร้องให้มีการเยียวยาจากต้นสังกัด โดยอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายในระหว่างประจำการที่กองบิน ๕๖ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
พลอากาศโท ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะ โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศ ได้เคยชี้แจงกรณีดังกล่าวไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย พลทหาร ประจักษ์ ฯ ทั้งในระหว่างประจำการ และระหว่างการจำขัง ที่เรือนจำกองบิน ๕๖ ตามระเบียบการลงทัณฑ์จากความผิดฐานหนีราชการ
โดยอาการบาดเจ็บบริเวณร่างกายที่เกิดขึ้นกับ พลทหาร ประจักษ์ ฯ เกิดจากการพยายามหนีจากเรือนจำ ๒ ครั้ง ครั้งแรกได้ปีนรั้วเรือนจำแล้วเกี่ยวลวดหนามทำให้เกิดแผลที่ศีรษะและบริเวณร่างกาย ครั้งที่สองได้กระโดดออกจากหน้าต่างห้องน้ำ ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ขาและมีแผลบริเวณก้น ซึ่งสามารถยืนยันได้จากประวัติการรักษา รวมถึงพยานบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำและผู้ถูกลงทัณฑ์ในห้วงเวลาเดียวกันนั้น
ส่วนอาการทางจิตเภท ถูกตรวจพบหลังจากมารดาพากลับมาส่งต้นสังกัด หลังจากหนีราชการเป็นเวลา ๒๘๘ วัน โดยมีอาการผิดปกติในลักษณะอาละวาด โวยวาย และระแวงคิดว่าจะมีคนมาทำร้าย ซึ่งได้รับการยืนยันในภายหลังจากประวัติการรักษาว่า พลทหาร ประจักษ์ ฯ มีประวัติดื่มน้ำกระท่อมนานประมาณ ๓ ปี เคยมีอาการหูแว่ว และภาพหลอน
อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศได้ดูแลช่วยเหลือและรักษาพยาบาล พลทหาร ประจักษ์ ฯ เป็นอย่างดี ทั้งการรักษาอาการบาดเจ็บบริเวณร่างกายที่โรงพยาบาลกองบิน ๕๖ การส่งไปรักษาอาการทางจิตเภทที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ตลอดจนการติดต่อญาติเพื่อหารือถึงแนวทางการรักษา ซึ่งญาติได้ขอรับตัวกลับไปทำการรักษาต่อที่ภูมิลำเนาคือโรงพยาบาลตรัง โดยมีหลักฐานเป็นบันทึกการรักษาและใบนัดจากแพทย์เป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากนี้ กองทัพอากาศยังได้พิจารณาอนุโลมกฎข้อบังคับต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือพลทหาร ประจักษ์ ฯ และครอบครัว ตามหลักมนุษยธรรม
ส่วนการปลดประจำการนั้น เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการปฏิบัติเกี่ยวกับการปลดทหารกองประจำการ ซึ่งในส่วนนี้กองทัพอากาศได้ติดตามข้อมูลจากสำนักงานสัสดีจังหวัดตรัง ทราบผลว่าได้ดำเนินการปลดประจำการเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
------------------------------
กองประชาสัมพันธ์
สำนักกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์
กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ
๒๖ มกราคม ๒๕๖๔