พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./ รองโฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ กรณีวันที่ 17 ต.ค.2564 ได้มีการนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ ของกลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร จัดกิจกรรมในเวลา 17.00 น. หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา 17.30 น. และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ บริเวณแยกดินแดง เวลา 17.30 น. นั้น
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมฯ ดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
สำหรับการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 กลุ่ม People ศิลปินเพลงเพื่อราษฎร และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีความวุ่นวาย
ด้านกลุ่มก่อความไม่สงบกลุ่มทะลุแก๊ส เวลา 22.20 น. ได้ก่อเหตุปาประทัดยักษ์ และระเบิดปิงปอง เสียงดังหลายครั้ง บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และหลบหนีไปทางถนนพหลโยธิน แต่ไม่พบว่ามีการรวมกลุ่มบริเวณแยกดินแดงแต่อย่างใด ในส่วนของสถานการณ์พื้นที่รอบแฟลตดินแดงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายเชิงรุกของ ผบ.ตร. ซึ่ง ผบช.น. ได้ขานรับนโยบายเข้าไปแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ และจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากที่สุด
ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรการ 3 สร้าง ได้แก่ สร้างความเข้าใจ สร้างความร่วมมือ และสร้างความสงบสุขให้แก่ประชาชน และจากการปฏิบัติการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ วันที่ 16 ต.ค.2564 เมื่อเวลา 23.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณถนนพิษณุโลก พบว่ามีคนร้ายปาวัตถุระเบิดบริเวณแยกยมราช จึงรีบรุดเข้าไปตรวจสอบ และประสานเจ้าหน้าที่ EOD เข้าดำเนินการตรวจสอบ พบว่าเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องซึ่งถูกปาลงบนถนน 2 ลูก เกิดระเบิด 1 ลูก ไม่ระเบิด 1 ลูก และปาใส่ป้อมตำรวจแยกยมราช 1 ลูก (ไม่ระเบิด) จึงได้เก็บพยาน หลักฐานเพื่อหาความเชื่อมโยงต่อไป
การดำเนินการทางกฎหมาย ผลการจับกุมผู้กระทำผิดในวันที่ 16 ต.ค.2564 ได้จับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 4 คดี ผู้ต้องหาจำนวน 3 คน โดยจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของการดำเนินการ ตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบันมี มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมฯ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 703 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 304 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 399 คดี
ข้อห่วงใย ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอประชาสัมพันธ์ไปเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนมากที่สุด จึงขอความร่วมมือ ดังนี้
1. กรณีผู้ที่มีบ้านเรือน หรือร้านค้าอยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่ชุมนุมฯ ให้แจ้งเตือนบุคคลในครอบครัว และบุคคลรอบข้าง หากไม่มีเหตุจำเป็นไม่ควรออกไปนอกที่พักและอาคารในช่วงที่มีการชุมนุมฯ
2. หลีกเลี่ยงการสัญจรไปในเส้นทางที่มีการชุมนุมฯ โดยขอให้ไปใช้เส้นทางที่คู่ขนานกันกับเส้นทางที่ได้รับผลกระทบแทน โดยสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 1197 และ Facebook 1197
3. หากมีบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความปลอดภัยเข้ามาในที่พักอาศัยหรือทุบทำลายสิ่งของมีค่าที่เป็นของท่านเองหรือสาธารณะประโยชน์ พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ 191
บช.น. ขอแจ้งเน้นย้ำว่ากรุงเทพมหานคร ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมฯ หรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ
ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 11 ลง 30 ก.ย.2564 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการร่วมกิจกรรมการชุมนุมฯ ต่างๆ เพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยโดยรวมของประเทศชาติและประชาชน
#นครบาลใส่ใจเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
#ทีมโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล #สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี)
#ธวัชชัยเฟื่องอนันต์รายงาน