ที่ห้อง แคทรียา 1,2 โรงแรมรามาการ์เด็น ถ.วิภาวดี-รังสิต กรุงเทพฯ / เวลา 10:00 น. วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2564 สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวแสดงพลังกิจกรรม TRUCK POWER SEASON II พลังคนรถบรรทุกเพื่อประชาชน ด้วยสถานการณ์ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศไทยทุกชนิด ได้ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 – ปัจจุบัน พบว่ามีปัญหาเรื่อง โครงสร้างราคาน้ำมันที่ไม่เป็นธรรม, การบริหาร จัดการเรื่องพลังงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว, สร้างภาระความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้บริโภคน้ำมันทางตรงและทางอ้อม ซึ่งมีตัวละครหลายตัวที่สร้างทฤษฎีสมประโยชน์ ระหว่างกลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มทุนพลังงาน ทุกกลุ่มได้ประโยชน์หมด แต่ประชาชนและผู้ใช้น้ำมันเสียประโยชน์ เสียหายตลอดเวลา 6-7 ปี ที่ผ่านมา โดยไม่ได้รับการดูแลจากภาครัฐเท่าที่ควร น้ำมันดีเซลเป็นปัจจัยหลักของทุกต้นทุน ส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและด้านโลจิสติกส์ มีผลต่อเนื่องถึงการพัฒนาประเทศ ที่ทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์สูงถึง 14.1 % เมื่อเทียบกับ GDP (ข้อมูล ปี 2563) ของประเทศ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และประชาชนผู้บริโภคน้ำมันเห็นว่า การที่รัฐบาล
โดยเฉพาะกระทรวงพลังงานไม่ได้เข้ามาบริหารจัดการ ควบคุม กำกับ ดูแล เรื่องราคาน้ำมันให้มีความเป็นธรรมและปล่อยให้ผู้ผลิต โรงกลั่น และผู้จำหน่ายปรับขึ้นราคา โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ และความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ, วิกฤตไวรัสโควิด-19, วิกฤตอุทกภัย ฯลฯจากมติ กบง. ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ยกเลิกมติ กบง. ลงวันที่ 5 ตุลาคม 2564 และ
กลับไปใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันแบบเดิม โดยที่ประชุมได้มีมติ “ตรึงราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 30 บาท/ลิตร” สร้างความไม่พอใจต่อภาคประชาชน และผู้ประกอบการขนส่งที่ได้รับผลกระทบ จึงมีการร่วมประชุมหารือ มีมติให้ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง ข้อเสนอแนะและมาตรการที่นำเสนอไปแล้ว พร้อมทั้งมีมาตรการต่างๆ มาตรการเพิ่มเติมดังนี้
1. จั ด กิ จ ก ร ร ม TRUCK POWER SEASON II เป็ น ก า ร ร ว ม ตั ว ข อ งภ า ค ป ร ะ ช า ช น และผู้ประกอบการขนส่งในรูปแบบใหม่ มีรถบรรทุกเข้าร่วมมากกว่า 1,000 คัน รถยนต์ส่วนบุคคลในเส้นทางที่กำหนด ภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยมีแผนการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า
2. หยุดเดินรถและงดให้บริการด้านการขนส่ง 20% ของจำนวนรถที่วิ่งงานอยู่ในปัจจุบัน
ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ในกรอบระยะเวลาหนึ่ง โดยจะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ใช้บริการหรือองค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
3. มาตรการและกิจกรรม TRUCK POWER SEASON II จะมีความเข้มข้นมากขึ้นเพื่อสะท้อนความเดือดร้อนและผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งแบบผสม เช่น กิจกรรม TRUCK POWER ภาคประชาชนแบบล้อมเมืองและแบบผ่าเมือง เหล่านี้เป็นต้น
4. จะยื่นหนังสือแจ้งไปยังองค์กรอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะผู้ใช้บริการ และผู้ให้บริการ ที่เป็นห่วงโซ่อุปทานต่อเนื่องซึ่งกันและกันทุกองค์กร ภายใน 2 สัปดาห์ หลังวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ถึงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องอธิบายขยายผลที่ต้องดำเนินกิจกรรม หรือมาตรการต่างๆ
5. จะยื่นหนังสือแจ้งประธานกรรมาธิการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ทราบความ
เดือดร้อน ผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งกรณี“การตรึงราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ 30 บาท/ลิตร” ในวิกฤติต่างๆ ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ในทุกมิติ ทุกประเด็น หลังเปิด สมัยประชุมสภาฯ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
6. จะยื่นหนังสือข้อร้องเรียน ข้อเรียกร้อง ข้อเสนอแนะ ต่อนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน
กรรมการพลังงานแห่งชาติ (กพช.) หรือเพื่อขอเข้าพบประชุมชี้แจง หารือในประเด็นต่างๆ ที่ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่ง ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนกรณีน้ำมันราคาแพง
ข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะ
1. ขอให้รัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ตรึงราคาน้ำมันดีเซล (B7) ราคาขายปลีก
25 บาท / ลิตร เป็นระยะเวลา 1 ปี ในช่วงสถานการณ์วิกฤติไวรัสโควิด-19, วิกฤติสภาวะเศรษฐกิจ และวิกฤตอุทกภัย ภัยพิบัติต่างๆ จนกว่าสถานการณ์ต่างๆ
จะคลี่คลาย
2. ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อช่วยเหลือ
ประชาชนในช่วงวิกฤติโดยหารายได้จากส่วนอื่นๆ มาทดแทน เช่น ภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย
3. ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้เป็นธรรม ยึดหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เอาเปรียบประชาชนและผู้บริโภคน้ำมันในระบบผูกขาด ตัดตอนจนเกินไป
4. ราคา ณ โรงกลั่นของไทย ต้องเท่ากับราคาสิงคโปร์ ที่ใช้เป็นฐานอ้างอิงน้ำมันสำเร็จรูป
(ราคา ณ โรงกลั่นต้องเท่ากัน)
5. ในสถานการณ์วิกฤติต่างๆ ต้องลดค่าการตลาด เงินกองทุนต่างๆ ยกเลิกค่าธรรมเนียมต่างๆ เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันแพงเกินไป และเป็นการผลักภาระ และสร้างกำไรทางธุรกิจที่ขาดหลักจริยธรรม และคุณธรรมทางธุรกิจกึ่งผูกขาด บนความทุกข์ยากของประชาชน ยกเลิกการนำเอาไบโอดีเซล (B100) มาผสมกับน้ำมันที่มาจากน้ำมันดิบเป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 ปี เพราะราคาต่อลิตรสูงกว่าราคาน้ำมันดิบมากเกินไป ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันสูงเกินความจำเป็น
รัฐบาลและกระทรวงพลังงานมีทางเลือกในการดำเนินการเพื่อปรับลดราคาน้ำมันให้เหมาะสมและเป็นธรรมในช่วงวิกฤติเพื่อช่วยเหลือประชาชนทั้งแผ่นดินให้มีความสุข สร้างความสุขให้คนทั้งประเทศ