➡️ (31 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,121 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 40.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 508 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 206 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 780.6 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 274.7 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 104,278,364 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 62.01%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,121 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 104,278,364 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 51,267,054 โดส (77.5% ของประชากร)
-เข็มสอง 46,080,159 โดส (69.6% ของประชากร)
-เข็มสาม 6,931,151 โดส (10.5% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-31 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 104,278,364 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 383,753 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 381,215 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,818,681 โดส
- เข็มที่ 2 3,575,348 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,444,639 โดส
- เข็มที่ 2 27,864,726 โดส
- เข็มที่ 3 2,894,851 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,454,646 โดส
- เข็มที่ 2 7,100,628 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 6,947,725 โดส
- เข็มที่ 2 7,067,344 โดส
- เข็มที่ 3 2,840,716 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 601,363 โดส
- เข็มที่ 2 472,113 โดส
- เข็มที่ 3 1,195,584 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.9% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 98.2%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 62.4% เข็มที่3 26.2%
- อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 75.9% เข็มที่3 23.4%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 77.7% เข็มที่2 71.7% เข็มที่3 9.7%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.9% เข็มที่3 60.9% เข็มที่3 9.1%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 75.3% เข็มที่ 67.5% เข็มที่3 6.3%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 21.1% เข็มที่ 17.7% เข็มที่3 0.8%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 74.4% เข็มที่2 70.6% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 71.2% เข็มที่2 64% เข็มที่3 9.6%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120% เข็มที่2 110.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.7% เข็มที่2 75.7%
2. ชลบุรี เข็มที่1 93.3% เข็มที่2 87.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.8% เข็มที่2 76.9%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 89.6% เข็มที่2 83.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 95% เข็มที่2 88.8%
4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.6% เข็มที่2 85% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.6% เข็มที่2 72.4%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 83.4% เข็มที่2 72% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 96.6% เข็มที่2 89%
6. ระนอง เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 75.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.4% เข็มที่2 74.9%
7. ระยอง เข็มที่1 77.8% เข็มที่2 72.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.1% เข็มที่2 67.5%
8. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 75.3% เข็มที่2 66.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 87.2% เข็มที่2 79.6%
9. พังงา เข็มที่1 74.7% เข็มที่2 72.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.9% เข็มที่2 74.7%
10. กระบี่ เข็มที่1 71.4% เข็มที่2 66.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80% เข็มที่2 75.9%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 70.7% เข็มที่2 65.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.8% เข็มที่2 69.2%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 70.4% เข็มที่2 62.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 72.4% เข็มที่2 64.5%
13. ตราด เข็มที่1 67% เข็มที่2 63% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.6% เข็มที่2 66.1%
14. เลย เข็มที่1 61.9% เข็มที่2 53.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.1% เข็มที่2 69.3%
15. บุรีรัมย์ เข็มที่1 61.2% เข็มที่2 55% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.8% เข็มที่2 72.7%
16. อุดรธานี เข็มที่1 59.8% เข็มที่2 53.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.9% เข็มที่2 77.5%
17. หนองคาย เข็มที่1 56.7% เข็มที่2 49% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.2% เข็มที่2 64.9%
รวม เข็มที่1 91.2% เข็มที่2 83.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.3% เข็มที่2 76.4%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 780,654,809 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 274,749,184 (58.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 149,318,658 โดส (79.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 108,534,301 โดส (51.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 104,278,364 โดส (77.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 57,515,286 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 35,680,066 โดส (37.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 31,477,627 โดส (84.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (88%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,194,207 โดส (62.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 823,787 โดส (94.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.48%
2. ยุโรป 10.47%
3. อเมริกาเหนือ 9.02%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.10%
5. แอฟริกา 3.36%
6. โอเชียเนีย 0.58%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,795.72 ล้านโดส (199.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,445.65 ล้านโดส (105.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 507.66 ล้านโดส (152.9%)
4. บราซิล จำนวน 330.72 ล้านโดส (157.4%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 274.75 ล้านโดส (99.6%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (265.5%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (230%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. บาห์เรน (217.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. มัลดีฟส์ (212.1% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (210.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. เดนมาร์ก (206.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
7. เกาหลีใต้ (200.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
8. จีน (199.7%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
9. สหราชอาณาจักร (198.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)
10. อุรุกวัย (197.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)