วันที่ 8 มี.ค.65 ที่สะพานปลาจังหวัดสมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง ตามโครงการเรือประมงสีขาว โดยมี หน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ร่วม 9 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1.สำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัด 2.สมาคมการประมงสมุทรสาคร 3.ศรชล.จังหวัดสมุทรสาคร 4.สถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ 5.ที่ทำการปกครองจังหวัด 6.สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 7.สำนักงานประมงจังหวัด 8.โรงพยาบาลสมุทรสาคร 9.สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 เข้าร่วมลงนาม MOU พร้อมกับมอบธงเรือประมงสีขาวให้กีบเจ้าของเรือประมงที่เข้าร่วมโครงการ
พิธีลงนาม MOU ความร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง ตามโครงการเรือประมงสีขาว ยังได้รับเกียรติจาก นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมเป็นสักขีพยาย โดยทุกหน่วยงานที่ตกลงร่วมมือป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง มีวัตถุประสงค์เพื่อ บูรณาการประสานความร่วมมือในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มแรงงานประมง รวมทั้งบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ให้ความช่วยเหลือแรงงานในเรือประมงซึ่งเป็นผู้เสพ ผู้ติดยา เข้าบำบัดรักษา และส่งเสริมให้เจ้าของเรือรับกลับเข้าทำงาน เพื่อให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีของแรงงานในเรือประมง
ทั้งนี้เรือประมงที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเรือประมงสีขาว ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ 8 ข้อ คือ 1.มีนโยบายด้านยาเสพติด และต้องประกาศนโยบายให้ลูกเรือประมงรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร 2.มีป้ายประกาศรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด 3.มีบุคคลทำงานรับผิดชอบ ซึ่งต้องเป็นระดับหัวหน้าแรงงานประมงที่ทำงานในเรือประมง 4.มีการให้ความรู้แรงงานประมง 5.มีกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด 6.มีการตรวจสุขภาพแรงงานประมง 7.ไม่พบพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 8.มีกระบวนการตรวจสอบ
นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเรือประมงในจังหวัดสมุทรสาคร แจ้งความประสงค์ที่จะเข้าร่วมโครงการเรือประมงสีขาว จำนวนกว่า 30 ลำ ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ส่วนที่ผ่านเกณฑ์ของโครงการฯแล้วนั้นมีจำนวน 5 ลำ ส่วนการเข้าร่วมโครงการเรือประมงสีขาวของสมาคมการประมง เนื่องจากแรงงานในภาคการประมงมีความขาดแคลน ทำให้การดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงานประมงที่มีอยู่เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งในเรื่องของสุขภาพร่างกาย และหากมีการตรวจพบแรงงานประมงติดยาเสพติด ก็จะต้องดำเนินการบำบัดรักษาตัว ให้สามารถกลับมาเป็นแรงงานประมงที่ดี เพื่อให้อาชีพของชาวประมงมีความยั่งยืนต่อไป
ด้าน นายณรงค์ รักร้อย เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญของชาติที่บ่อนทำลายความสงบสุขของคนในสังคม และพบว่าผู้เสพส่วนใหญ่มีอายุอยู่ระหว่าง 15-50 ปี ซึ่งอยู่ในวัยแรงงานจึงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและระบบเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญ ต่อการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของปัญหายาเสพติด โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบควบคุมสถานบริการ โรงงานและสถานประกอบกิจการ ไม่ให้มีการซุกซ่อนจำหน่ายสารเสพติดอย่างเด็ดขาด รวมทั้งให้มีการนำผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดโดยทันที และติดตามดูแลช่วยเหลือให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติ
พิธีลงนาม MOU ความร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือประมง ตามโครงการเรือประมงสีขาว สะท้อนให้เป็นถึงความใส่ใจในการแก้ปัญหายาเสพติดในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานในเรือประมงทะเล ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในการเข้าถึงของยาเสพติด โครงการเรือประมงสีขาวเป็นความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ที่จะช่วยให้จังหวัดสมุทรสาครมีภูมิคุ้มกันด้านยาเสพติด และส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานบนเรือประมง ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความปลอดภัยในการทำงาน อันจะส่งผลดีในภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธงชัย เนตรสขาวัฒน์ รอง ผบก..ภ.จว.สมุทรสงคราม (หัวหน้าชุด ชป. สพดส.ตร.TICAC ภ.7) ประชุมผลการปฎิบัติพร้อมตรวจค้นเป้าหมายและขยายผลยึดทรัพย์ผู้ต้องหาในคดี ค้ามนุษย์ เขตพื้นที่ ภาค 7
พญาราหู พิราบข่าว 03/ ต้น มหาชัย/ สมุทรสาคร