ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย นำคณะเดินทางไปที่ประเทศมาเลเซียเพื่อเข้าพบกับผู้นำในส่วนต่างๆเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาตลอดจนความร่วมมือในด้านอื่นๆเพื่อมาปรับใช้ในประเทศไทย
รองศาสตราจารย์ ดร. โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพร้อมด้วยท่านจิรเดช วรเพียรกุช รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ และคุณตัสนิม เจ๊ะตู กรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อไปศึกษาดูงานในด้านต่างๆ อาทิความสำเร็จจากการบริหารจัดการด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและด้านการเมือง
โดยได้เข้าพบกับผู้นำของประเทศถึง3คนคือท่าน ฮัมซาห์ ไซนูดิน hamzah zainudin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของมาเลเซีย ท่านมหาเธร์ มูฮัมมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และเจ้าชาย เต็งกู ราซาเล่ย์ ฮัมซาห์ Tengku RaZaleigh Hamzah ลุงทวดของสุลต่านมูฮัมหมัดที่ 5 แห่งรัฐกลันตัน โดยได้ร่วมพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆอย่างมากมายในด้านเศรษฐกิจและด้านการพัฒนาสังคม ด้านการเมือง และด้านอื่นๆเพื่อจะได้นำไปหาทางและสร้างความร่วมมือกันต่อไป
ดร.โภคิน พลกุล กล่าวขอบคุณและมอบของที่ระลึกให้กับผู้นำทั้ง3คนของมาเลเซียที่ให้การต้อนรับคณะที่เดินทางมาจากประเทศไทยรวมถึงดูแลคนไทยที่ไปลงทุนในประเทศมาเลเซียด้วย การนำคณะมาในครั้งนี้ก็เพื่อมาศึกษาถึงแนวคิดและการบริหารงานด้านต่างๆของประเทศมาเลเซียเพื่อนำไปปรับใช้กับประเทศไทยอย่างเหมาะสม
ส่วนในกลุ่มมุสลิมภายใต้ชื่อขององค์กร GISB (จีไอเอสบี)ซึ่งเป็นองค์กรการพัฒนาระดับโลก รองศาสตราจารย์ ดร. โภคิน พลกุล ได้ร่วมเซ็นMOUลงนามความร่วมมือที่จะขับเคลื่อนในภาคส่วนต่างๆร่วมกัน ซึ่ง องค์กร GISB นี้มีสาขาทั้งหมด17ประเทศทั่วโลก ภายในศูนย์การเรียนรู้ที่ประเทศมาเลเซียนี้ มีอาชีพที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้พัฒนาฝีมือแรงงาน7ภาคธุรกิจ โดยการบริหารจัดการ 37 หน่วยงาน เช่น การทำอาหาร ทำเบเกอรี่ ด้านโรงงานผลิตวัตถุดิบ ด้านการท่องเที่ยว ด้านการรักษาพยาบาล ด้านเกี่ยวกับงานสื่อมีเดี่ย และงานด้านการเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น กระบวนการทั้งหลายเหล่านี้ทำให้คุณภาพชีวิตเยาวชนของพวกเขาดีขึ้นซึ่งก็จะนำไปสู่สังคมที่ปลอดภัยและยั่งยืน
ซึ่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศได้รับฟังความคิดเห็นและแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆจากทั้งจากผู้นำของมาเลเซียและจากการเข้ามาเรียนรู้จากองค์กร GISB ที่มีการบริหารจัดการโดยอาศัยความร่วมมือของภาคประชาชนเป็นหลักโดยเน้นแนวทางของมุสลิมเช่นการพัฒนาตัวบุคคลเป็นอย่างแรกโดยผ่านกิจกรรมการอมรมบ่มเพราะปลูกฝังจิตใจและปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่องจนทำให้พนักงานที่มีมากกว่า 5000 คนทั่วโลก เกิดความสามัคคีและมุ่งมั่นที่จะสร้างความสำเร็จให้กับตนเองให้กับครอบครัวและให้กับสังคมอย่างเสมอภาค ผลจากการพัฒนาจิตใจนี้เองจึงทำให้เกิดกิจกรรมในด้านต่างๆของชีวิตซึ่งจะสร้างความสมบูรณ์ให้เกิดขึ้น โดยการเสียสละการปกป้องคุ้มครองนั่นเองและทุกคนก็สามารถนำไปปรับใช้ได้เช่นกัน ซึ่งจะนำไปสู่การให้กำเนิดสังคมที่สงบสุข งดงามและปลอดภัย การเข้าไปเยี่ยมชมที่ศูนย์การเรียนรู้ GISB และร่วมพูดคุยกับกลุ่มเยาวชนมุสลิมที่ทางผู้นำองค์กรได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น ทางคณะคนไทยยังได้ศึกษาถึงการใช้ชีวิตร่วมกันบนความเท่าเทียมกันอย่างสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเป็นอย่างดีจนทำให้สถานที่แห่งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง และจะได้นำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับประเทศไทยในอนาคต
รองศาสตราจารย์ ดร. โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ ยังกล่าวกับสื่อมวลชนว่าการนำคณะมาครั้งนี้นอกจากศึกษาด้านการพัฒนาเศรษฐกิจด้านสังคมและด้านการเมืองแล้ว ยังมีแนวคิดว่าประเทศไทยควรจะสร้างความร่วมมือขับเคลื่อนในอีก3เรื่องหลักคือ เรื่องอาหาร เรื่องสุขภาพ และเรื่องท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็จะนำแนวทางการขยายตลาดผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงผลิตภัณฑ์ของชุมชนไปยังตลาดภายในประเทศให้กว้างขวางมากขึ้น รวมถึงการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆทั่วโลก พร้อมหาช่องทางการลงทุนต่างๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการในประเทศไทย ในส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จะเร่งหาแนวทางการปฏิบัติกำหนดนโยบายต่างๆอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป