วันพุธที่ 17 ส.ค. 2565 เวลา 15.30 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ ฯ เดินทางมาแถลงข่าวจับเรือประมงทำประมงผิดกฎหมาย ที่ท่าเรือศาลเจ้าปุ่นเถ้ากง จ.สมทุรสาคร จำนวน 4 ลำ ได้แก่ เรือ ฮ.ธวัชชัยนาวี 3 , เรือ ฮ.ธวัชชัยนาวี 4 , เรือ ฮ.สินธุ์ชัยนาวี 8 และ เรือ ฮ.สินธุ์ชัยนาวี 9 เป็นเรือประมงอวนลากคู่ โดยเรือประมงทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีฐานดัดแปลงเครื่องมือประมงให้ผิดไปจากลักษณะของเครื่องมือที่ระบุไว้ในใบอนุญาตตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 42 และมาตรา 132 มีโทษปรับตั้งแต่ 100,000–6,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดเรือ
ทางด้าน พล.ต.ท สุรเชษฐ์ หักพาลกล่าวว่าปัจจุบันการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในประเทศไทยยังคงมีการตรวจสอบการทำประมงของเรือประมงไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการทำความเข้าใจกับชาวประมงให้สามารถทำการประมงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายรวมทั้งเป็นการบังคับใช้กฎหมายประมงเพื่อปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมายด้วย ซึ่งจากปฏิบัติการของคณะทำงานดังกล่าวยังตรวจพบเรือประมงที่ยังฝ่าฝืนลักลอบใช้อวนตาถี่ในการทำประมงหวังจะให้ได้ปลาที่มากที่สุดแต่แท้จริงแล้วการใช้อวนตาถี่จะเป็นการทำลายทรัพยากรไม่ปล่อยให้ปลาขนาดเล็กเติบโตเพื่อให้สามารถทำประมงได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีกำหนดขนาดตาควรที่ใช้ตามกฎหมายอยู่แล้วดังนั้นเมื่อตรวจพบความผิดดังกล่าว จึงต้องมีการดำเนินคดีโดยเด็ดขาดเพื่อให้การทำประมงของไทยเป็นไปตามกฎหมายและหลักสากลเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
สำหรับการกำหนดการใช้เครื่องมือทำประมง ประเภทอวนลากคู่ ผู้แทนกองวิจัยและพัฒนาประมงทะเลได้อธิบายลักษณะเครื่องมือประมงตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตตามข้อ 4 เนื้ออวนตลอดทั้งผืนต้องมีชั้นเดียวยกเว้นบริเวณก้นถุงให้ใช้อวนรองก้นถุงที่มีขนาดตาอวนไม่น้อยกว่า 7 เซนติเมตร ในกรณีที่มีเส้นเชือกประคองก้นถุงหย่อนทั้งด้านบนและด้านล่างต้องมีจำนวนเส้นเชือกประคองก้นถุงทั้งหมดไม่เกิน 8 เส้นและห้ามวัสดุอื่นใดร้อยตาอวนตามแนวขวางซึ่งควรลองก้นถุงมีไว้เพื่อป้องกันเนื้ออวนก้นถุงเสียหายจากกรณีที่อวนอาจจะไปถูกกับพื้นทะเลโดยการใช้อวนรองก้นถุงส่วนปลายสุดจะต้องไม่เย็บปิดหรือไม่มีการผูกปลายอวนรองก้นถุงเพราะหากมีการเย็บหรือผูกปลายอวนรองก้นถุงจะทำให้กลายเป็นลักษณะของอวนก้นถุง 2 ชั้นและห้ามใช้เชือกหรือวัสดุอื่นใดร้อยตาอวนตามแนวขวาง
พญาราหู พิราบข่าว 03/สมุทรสาคร