กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ (ประเทศไทย) จัดงานฉลองครบรอบ 40 ปี การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อแสดงความขอบคุณและตอบแทนความรู้สึกอันดีที่บริษัทฯ ได้รับคำแนะนำ ความช่วยเหลือ และการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
เวลา 10.00 น. คุณสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารใหม่ NMB Advance Technology เนื่องในโอกาสครบ 40 ปี กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ (ประเทศไทย) ณ โรงงานบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และท่านเอกอัครราชฑูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย Mr.Kazuya Nashida ได้กล่าวแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วย
และในเวลา 19.00 น. คุณวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในงานเลี้ยงรับรอง ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพมหานคร
โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากทุกภาคส่วนของรัฐบาลไทย พร้อมทั้งลูกค้า ตลอดจนผู้บริหารของกลุ่มบริษัทฯ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ทั้งงานพิธีเปิดอาคารใหม่ และงานเลี้ยงรับรอง
และในโอกาสนี้ นายโยชิฮิสะ ไคนูมะ ประธานกลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ได้กล่าวถึง ความเป็นมาของกลุ่มบริษัท และการดำเนินกิจการในประเทศไทย คือ กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ก่อตั้งที่ประเทศญี่ปุ่น ปี พ.ศ.2494 มีการขยายการลงทุนและฐานการผลิตมาที่ประเทศไทย ปี พ.ศ.2525 ปัจจุบันดำเนินธุรกิจมาครบ 40 ปี ซึ่งถือเป็นฐานการ ผลิตที่ใหญ่ที่สุด บริษัทฯ มีการขยายการลงทุน และกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง มียอดเงินลงทุนสะสม ณ เดือนมีนาคม 2565 มากกว่า 108,000 ล้านบาท มีโรงงานผลิต 9 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี ชลบุรี และระยอง ปัจจุบันมีพนักงานจำนวนมากกว่า 38,000 คน มีการจ้างงานสะสมตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 จำนวน 253,000 คน ด้วยยอดขายมากกว่า 87,000 ล้านบาท
ท่ามกลางวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ สามารถผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ มาได้ และดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น และเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน โดยได้รับความช่วยเหลือ และการสนับสนุนในหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างดี จากทุกภาคส่วนของรัฐบาลไทย รวมถึงความร่วมมือ ร่วมใจ จากพนักงานของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ เกิดความเชื่อมั่น และตัดสินใจขยายการลงทุนที่ประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง และปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการลงทุนรวมมูลค่า 5,200 ล้านบาท และขยายการลงทุนเพิ่มมูลค่า 3,000 ล้านบาท ในการสร้างอาคารใหม่ NMB Advanced Technology และเครื่องจักร เพื่อขยายกำลังการผลิต ผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืน ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิต เมื่อเดือนพฤศจิกายน และจัดพิธีเปิดอาคารอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ธันวาคม 2565
เนื่องในโอกาสครบ 40 ปี ของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อเป็นการตอบแทนคืนสู่สังคม บริษัทฯได้มอบ รถพยาบาลฉุกเฉิน จำนวน 4 คัน ให้กับโรงพยาบาล 3 แห่ง เพื่อสนับสนุนการสาธารณสุข พร้อมทั้งปลูกป่า จำนวน 500 ไร่ ณ ป่าสงวนแห่งชาติ จังหวัดลพบุรี เพื่อช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ต้นไม้เหล่านี้จะช่วยดูดซับคาร์บอนได้สูงถึง 8,600 ตันคาร์บอน ในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งตรงกับปรัชญาการบริหารของบริษัทฯ คือ "การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ซึ่งมีนโยบายภายใต้แนวคิดการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน Environmental Social and Corporate Governance (ESG) ผ่านทุกกิจกรรมในการดำเนินธุรกิจขององค์กร โดยมีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด QCDESS
หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตในประเทศไทย คือ "Smart LED Streetlights" มีคุณสมบัติโดดเด่นคือ ประหยัดพลังงานไฟฟ้า , ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ , มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างโครงข่าย เพื่อเชื่อมต่อการศึกษา โดยผ่านระบบ IOT platform ด้วยจุดแข็งในการผลิตแบบครบวงจร ทางบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ผลิตพลังงานสะอาด เพื่อมาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มีความเที่ยงตรงสูง มีความรวดเร็ว และต่อเนื่องในการส่งมอบสินค้า รวมถึงลดต้นทุนในการผลิต ตามนโยบายสิ่งแวดล้อมของ กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ทางบริษัทฯ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนในระบบ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้ได้ 100% ภายใต้หลักปรัชญาการบริหาร (Corporate Philosophy) และหลักความเชื่อ 5 ประการ (Company Credo) ของบริษัทฯ และทำประโยชน์ต่อสังคมโลก เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จแห่งการเติบโตและความยั่งยืน
กลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินงานให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของโลก พร้อมทั้งถือเป็นแนวนโยบาย เพื่อสร้างสังคมที่ปราศจากคาร์บอน และการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับการดูแลบุคลากร เพราะเชื่อว่า "คน" คือ ทรัพยากรที่สำคัญ และมีคุณค่า จึงได้มีนโยบายในการดูแลพนักงานให้มีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทำให้พนักงานปฏิบัติงานอย่างมีความสุข ผลิตสินค้าที่ดีกว่า มีความรวดเร็ว จำนวนมากกว่า ราคาถูกกว่า ด้วยวิธีที่ชาญฉลาดกว่า และมีความพากภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับบริษัทฯ
ทางกลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งทุ่มเทให้กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมทั้งให้ความสำคัญกับการดูแลและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทย เป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป