พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เรียกประชุมคณะกรรมการ กำหนดแนวทางแก้ปัญหาเกาะหลีเป๊ะ เน้นการบังคับใช้กฎหมายควบคู่การเจรจา
ภายหลังจากเมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ และตรวจสอบพื้นที่ที่มีการรุกล้ำพื้นที่อุทยาน โดยได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีปัญหาข้อพิพาทระหว่างนายทุนภาคเอกชน และชาวบ้านในพื้นที่ ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (24 ม.ค.66) เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมที่ดิน กรมอุทยาน กรมธนารักษ์ และกรมบังคับคดี เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการจำนวน 3 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการดูแลวิถีชีวิตคนพื้นที่ คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมาย และคณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบสิทธิ โดยทั้ง 3 คณะจะทำงานไปพร้อมๆ กันเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ ในวันที่ 26 ม.ค.66 นี้ ผู้แทนกรมอุทยานจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ที่มีการบุกรุกพื้นที่เขตอุทยาน หรือมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่ เพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด และจะให้ผู้บังคับการจังหวัดสตูล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบสิทธิของผู้ถือครองที่ดินต่างๆ ว่ามีสิทธิตามกฎหมายถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งจะดำเนินการร่วมกับกรมบังคับคดี ในการตรวจสอบพื้นที่ที่ศาลได้มีคำพิพากษาบังคับคดีให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ที่รุกล้ำ ให้ดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้สามารถคืนพื้นที่ให้ได้โดยเร็ว
ขณะที่ในส่วนของการดำเนินการในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะวันนี้ ทางอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ น.ส.พัชรินทร์ แสงสว่าง กับพวก รวม 3 คน ในข้อหา “ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าฯ” และรายของนายณัฐพันธุ์ อังโชติพันธุ์ กับพวก รวม 4 คน อีก 2 ข้อหา และได้รับแจ้งจากเจ้าของสิทธิ์ที่มีการเสนอออกโฉนดที่ดินเพิ่มอีก 60 ได้จาก 80 ไร่ เป็น 150 ไร่ เบื้องต้นเจ้าของสิทธิ์ดังกล่าวยินยอมที่จะไม่ออกโฉนดที่ดินอีก 60 ไร่ ที่เพิ่มออกมา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จะมีการตั้งอนุกรรมการ ขึ้นมาสามชุดเพื่อ แยกประเด็นและแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ตามแนวทางโดยให้มีการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน พร้อมรับฟังและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และจะมีการนำเครื่องมือพิเศษเข้าไปทำการรางวัด พร้อมกับให้ปลัดกระทรวงการคลังอนุมัติให้กรมธนารักษ์ เข้ามาเป็นคณะทำงานแก้ไขปัญหาและชี้จุดที่เป็นปม ข้อพิพาทบริเวณปากทางเข้าโรงเรียนเกาะอาดัง ในส่วนของ 15 คดีที่มีการพิพากษาไปแล้วจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังโดยจากนี้ไปจะเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดการบูรณาการในการบังคับใช้กฎหมายไม่ใช่ต่างคนต่างทำ เพราะที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายไม่เกิดขึ้นจริงเป็นเพราะต่างคนต่างกลัวที่จะถูกดำเนินคดี ซึ่งในระยะยาวจะต้องมีการจัดระเบียบในภาพรวม เพื่อให้สามารถฟื้นฟูสภาพเกาะหลีเป๊ะให้กลับมาสวยงาม เข้ากับวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวอีกด้วย โดยการแก้ไขปัญหานี้จะดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุม เพื่อให้การแก้ไขปัญหานั้นมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน