วช. เชิดชู ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2566 จากแนวคิด “ ไทย สู้ มาลาเรีย "
วันที่ 30 มีนาคม 2566 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงานแถลงข่าว “NRCT Talk : นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2566 ครั้งที่ 2” เปิดตัว ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ แห่ง คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2566 โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นายเอนก บำรุงกิจ รองผู้อำนวยการสำนักงาน - การวิจัยแห่งชาติ เป็นประธาน ณ ศูนย์จัดการความรู้การวิจัย อาคาร วช.1 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กรุงเทพฯ
นายเอนก บำรุงกิจ รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. มีภารกิจที่สำคัญ ในการยกย่อง เชิดชู ประกาศเกียรติคุณหรือยกย่องบุคคลหรือหน่วยงานด้านการวิจัยและนวัตกรรม โดยเป็นผลงานที่เป็นประโยชน์ ต่อวงวิชาการส่วนรวม
ซึ่งในปีนี้ วช. ได้มอบรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ประจำปี 2566 ให้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ แห่ง ภาควิชาชีวโมเลกุลและพันธุศาสตร์โรคเขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล สำหรับรางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ วช. จัดให้มีการมอบรางวัลฯ เพื่อเป็น “กำลังใจ” ให้นักวิจัยไทย มืออาชีพที่ได้อุทิศตนให้กับการสร้างผลงานวิจัยที่มีคุณประโยชน์ต่อประชาชน สังคมและประเทศชาติจนเป็นที่ประจักษ์ และที่สำคัญ ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับยกย่องว่ามีจริยธรรมของนักวิจัย สมควรเป็นแบบอย่างแก่นักวิจัยผู้อื่นได้ ซึ่งเวที NRCT Talk จะเป็นเวที ในการที่จะนำนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติแต่ละสาขามาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ นำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรม ผ่านสื่อมวลชนและยังเป็นการเชิดชูนักวิจัยทางด้านสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่มีคุณค่า สร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้นักวิจัย เกิดยกระดับงานวิจัยและนวัตกรรมสร้างองค์ความรู้พื้นฐานทางวิชาการต่อสังคมและเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งของผลงานวิจัยดังกล่าวจะ นำไปสู่การใช้ประโยชน์ต่อสังคมของประเทศชาติต่อไป
ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อิ่มวงศ์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ กล่าวว่า ทั่วโลกเผชิญปัญหาเชื้อมาลาเรียดื้อยา มาลาเรียยังคง เป็นปัญหาหลักสำคัญของโลกคร่าชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลกมากกว่า 600,000 คน ต่อปี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทยและ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยปลอดจากเชื้อมาลาเรียภายในปี พ.ศ. 2567 นำไปสู่การประยุกต์ใช้ เทคนิคทางชีวโมเลกุลเป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ในการกำจัดมาลาเรียรวมถึงการดื้อยาทั้งในประเทศไทยและ ประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขง
โดยจากผลการวิจัยนําไปสู่การพัฒนาเทคนิคทางชีวโมเลกุลการตรวจหาผู้ที่ติดชื้อมาลาเรียแบบ ไม่แสดงอาการที่มีความไวสูงกว่าเทคนิคมาตรฐานกว่า 2,000 เท่า และนำไปตรวจในอาสาสมัครที่แข็งแรงจากไทย ลาว กัมพูชา เป็นจำนวน 61,544 ราย เป็นครั้งแรก ทำให้สามารถบ่งชี้ได้ว่าใครเป็นผู้ติดเชื้อบ้างอยู่บริเวณใดและได้ดำเนินการให้ได้รับยา ในรูปแบบ mass drug administration เพื่อกำจัดเชื้อมาลาเรีย
ส่งผลให้ผู้ที่ติดเชื้อมาลาเรียลดลงถึง 5 เท่าหลังการใช้ยาจาก การศึกษาค้นคว้าสู่การค้นพบการแพร่กระจายการดื้อยาอาร์เทมินิน จากเมืองไพลิน ประเทศกัมพูชาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ลาว และเวียดนาม เป็นครั้งแรกของโลก ส่งผลให้เกิดการติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้การแพร่กระจาย การดื้อยานี้กระจายไปสู่ พม่า อินเดีย และไปถึงแอฟริกาในที่สุด จากการค้นพบนี้จะช่วยสร้างระบบเร่งรัดกำจัดเชื้อมาลาเรียดื้อยา เพิ่มประสิทธิภาพของยารักษาโรคมาลาเรียที่มีอยู่สู่การพัฒนายาใหม่ควบคุมและกำจัดโรคมาลาเรียได้อย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ วช. ได้มีการจัดงาน NRCT Talk ขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นเวทีให้นักวิจัยได้นำเสนอผลงานวิจัยและนวัตกรรม ผ่านสื่อมวลชนและยังเป็นการเชิดชูนักวิจัยในสาขาต่าง ๆ ที่มีคุณค่า สร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้นักวิจัยเกิดการยกระดับงานวิจัย ของประเทศสร้างองค์ความรู้พื้นฐานทางวิชาการต่อสังคมขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนาได้อย่างยั่งยืน