กรมศุลกากรจับกุมผู้โดยสารลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน (COCAINE) ซ่อนในกระเป๋าเดินทาง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 4,800 กรัม มูลค่า 14.4 ล้านบาท ณ สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
7 เมษายน 2566) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาการ
ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 เวลา 13.50 น. กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และกองสืบสวนและปราบปราม ภายใต้การปฏิบัติงานของชุด AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE)
ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ประมวลข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการลักลอบนำยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร พบผู้โดยสารที่เดินทางมาจากกรุงเซาเปาโล สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ผ่านเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย มีความเสี่ยงที่จะนำสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศ
จึงทำการตรวจผู้โดยสาร
ในเที่ยวบินดังกล่าวอย่างละเอียด และทำการเอกเรย์กระเป๋าเดินทาง พบกระเป๋าของผู้โดยสารชาย 1 ราย มีความผิดปกติ เมื่อขอตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน (COCAINE) ลักษณะเป็นผง สีขาวบรรจุถุงพลาสติกสีขาวใส หุ้มด้วยกระดาษคาร์บอนสีดำ และถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ ซุกซ่อนอยู่ภายในบริเวณพื้นและขอบด้านบนของกระเป๋าเดินทางที่จัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษ รวมทั้งสิ้น 4 ห่อ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 4,800 กรัม มูลค่า 14.4 ล้านบาท
กรณีนี้ ความผิดฐาน นำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้
รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และความผิดตามกฎหมายศุลกากร มาตรา 242 มาตรา 166 มาตรา 167 และมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ฯ
จึงได้ร่วมกันนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป