อดีตผัวเก่าตามราวี ถูกผัวใหม่ฟันเสียชีวิต ...
วันที่ 24 เมษายน 2566 เวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุนรสิงห์ ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาท เป็นเหตุให้ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย พื้นที่ หมู่ 2 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 84/7 ม.2 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ. สมุทรสาคร จึงแจ้งให้ ร.ต.ต.ชัยวัฒน์ พรหมหาญ รอง สวป.หัวหน้าหน่วยบริการตำบลนาดี เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ และรายงานให้ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ สวป. สภ.เมืองสมุทรสาคร ทราบในที่เกิดเหตุพบ ผู้เสียชีวิต นอนจมกองเลือด บริเวณหน้าบ้าน ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกของมีคมฟัน หลายแห่ง โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เดินทางตรวจที่เกิดเหตุเก็บหลักฐานประจักพยาน พบมีดพร้า 2 เล่ม ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และไม้ หน้าสามจำนวน 1 ท่อน ห่างจากศพผู้เสียชีวิต ประมาณ 2 เมตร จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายและคนก่อเหตุมีการ ต่อสู้และทำร้ายร่างกายกัน บริเวณหน้าบ้าน จนเสียชีวิตมีตาม ร่างกายถูกฟันด้วยของมีคมที่ แขนซ้าย ถูกฟันเกือบขาด ชายโครง และศีรษะ มีแผลแตก เป็นเหตุให้ เลือดไหลออกตามร่างกาย และทนบาดพิษ ไม่ไหว สียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวสอบถาม นายวงค์น้อย วรดิษฐ์ อายุ 38 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 172 /247 หมู่ 4 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนเป็นสามีใหม่ ของ นาง ปราณี แดงวัฒน์ อายุ 37 ปี อยู่กินกันมา 10 กว่า ปี แต่ด้วย นางปราณีฯ เคยมีสามีมาแล้ว และมีบุตรด้วยกัน 1 คน เลิกลากัน มาประมาณ 13 ปี แล้ว และตนจึงมาอยู่กินกับนางปราณี ฯ ภรรยาต่อมา
นาย มนัส ครุฑธา หรือ นายมานัส เติมสายทอง ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นสามีเก่า เพิ่งพ้นโทษจาก เรือนจำ ได้ประมาณ 2 เดือนเศษ คดียาเสพติด ได้ เข้ามา พยายามหาเรื่อง หลายครั้ง และ และมีปากเสียงกันมาตลอด โดยผู้ตาย เคยข่มขู่ ฆ่า หลายครั้ง จึงทำให้ ตนและ ภรรยา และลูก ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง
ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตคือนายมนัส เติมสายทอง อายุ 39 ปี อดีตสามีเก่า ขับรถ กระบะ Isuzu สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผท 4197 นครศรีธรรมราช มาที่ บ้าน ภรรยาเก่า โดยนำมีดพร้ามา 1 เล่ม ก่อนเข้ามา หาเรื่องต้น และลูกเมีย จนเกิดบันดาลโทสะทั้ง 2 ฝ่าย ใช้มีดต่อสู้กัน เป็นเหตุให้พลั้งมือ ทำร้ายร่างกายกันจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุนายวงน้อยฯ ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว
นาย วงน้อยฯ ชี้จุด ที่เกิดเหตุ ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
พญาราหู พิราบข่าว 03/ สมุทรสาคร