ชลบุรี-ประปาพัทยาเผยเชื่อมโยงเครือข่ายระบบท่อทั้งภาคตะวันออกผันน้ำช่วยเหลือพื้นที่แห้งแล้ง มั่นใจ “เอลนิญโญ่” ไม่กระทบ
จากกรณีที่มีกระแสข่าวรายงานว่าในปี 2566 นี้ประเทศไทยจะประสพกับปัญหาภัยแล้งหรือที่เรียกกันว่า “เอลนิญโญ” ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำทั้งเรื่องของการเกษตร และอุปโภค บริโภค นั้น กรณีดังกล่าว
นายชัยทัศน์ อิ๊ดแสง ผู้จัดการสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคพัทยา เปิดเผยว่า ปัญหาภัยแล้ง หรือ “เอลนิญโญ” นั้นแม้ว่าจะมีภาวะแห้งแล้งเกิดขึ้นตามที่เป็นข่าว แต่ในปี 2566 นี้ในพื้นที่เมืองพัทยาคงไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพราะปัจจุบันปริมาณน้ำดิบจากทั้ง 5 อ่างของเมืองพัทยา ทั้งอ่างมาบประชัน ห้วยขุนจิต ห้วยสะพาน หนองกลางดง และชากนอก ยังมีปริมาณน้ำดิบรวมกันกว่า 80% ของปริมาตรความจุรวม ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 40 ล้าน ลบ.ม.
ขณะที่ผ่านมากรมชลประทานยังดำเนินโครงการที่การเชื่อมโยงเครือข่ายระบบท่อส่งน้ำไปทั่วภูมิภาคตะวันออก ทั้งชลบุรี ระยองและจันทบุรี โดยเฉพาะของการผันน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ที่ จ.ระยอง และอ่างเก็บน้ำปะแสร์ ที่ จ.จันทบุรี ซึ่งพบว่ามีปริมาณน้ำดิบเกือบเต็มความจุและสามารถผันมาสู่อ่างเก็บน้ำหนองกลางดง ก่อนส่งต่อมายังประปาพัทยาเพื่อผลิตน้ำอุปโภค บริโภคได้ตลอด ขณะที่ในปี 2567 ก็มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ปัจจุบันการประปาพัทยายังมีแผนในการผันน้ำจากคลองห้วยยายร้า ในพื้นที่สัตหีบ ซึ่งเป็นคลองที่มีน้ำเป็นจำนวนมากแต่ปล่อยไหลลงสู่ทะเลโดยตรง ซึ่งหากโครงการสำเร็จลุล่วงก็จะสามารถผันน้ำเข้ามาสู่ระบบได้อีกประมาณ 1 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี
นายชัยทัศน์ เผยด้วยว่า สำหรับในหลายพื้นที่ของเมืองพัทยาที่มีปัญหาในเรื่องของระดับสูงและท่อประปาเก่าและชำรุด ปัจจุบันทางการประปาได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเมืองพัทยาในการปรับเปลี่ยนระบบท่อส่งน้ำให้มีขนาดใหญ่และสามารถรับแรงดันได้สูงขึ้น จึงทำให้ปัญหาเหล่านี้เริ่มหมดไป
และตามที่เมืองพัทยามีแผนในการทำพื้นที่แก้มลิงเพื่อกักเก็บน้ำจากฝั่งตะวันออกไม่ให้ไหลลงสู่พื้นที่เมืองพัทยาและจะผันน้ำมาให้การประปาเพื่อใช้ในการผลิตน้ำอุปโภค บริโภคนั้น เรื่องนี้ยังไม่มีการหารือ แต่หากสามารถดำเนินการก็จะถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนปริมาณน้ำดิบให้เพียงพอต่อผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีต่อไปด้วยเช่นกัน