แถลงข่าวบูรณะยอดฉัตรทองคำประดับองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา บูรณะครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ใช้ทองคำ 12 กิโลกรัม ขอเชิญศรัทธาสาธุชนร่วมเป็นเจ้าภาพโดยพร้อมเพรียงกัน
เนื่องจากองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง อายุกาล 670 ปี มีความชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา และผลจากแผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่ผ่านมา ทำให้แกนยอดองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง ด้านบนสุดมีสภาพเอียงและสายลวดที่ยึดยอดฉัตรขาด อาจส่งผลทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต
ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาและบูรณะองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่านและประเทศไทย ให้อยู่ในสภาพที่มั่นคงแข็งแรง เป็นที่กราบสักการะเจริญศรัทธาแก่สาธุชน ทางวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง จึงได้ร่วมกับพุทธศาสนิกชนดำเนินงานโครงการบูรณะองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง จังหวัดน่าน โดยได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรแล้ว โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหารรับเป็นประธานโครงการฯ
บัดนี้ได้ดำเนินงานโครงการฯ เป็นไปตามแผนงานและเตรียมดำเนินการบูรณะส่วนยอดฉัตรองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง จึงเห็นสมควรจัดตั้ง โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง จังหวัดน่าน
ล่าสุดได้จัดให้มีการแถลงข่าว ณ ณศาลาหลวงวัดพระธาตุภูเพียงแช่แห้งพระอารามหลวง ผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พระราชศาสนาภิบาล ประธานอำนวยการฝ่ายสงฆ์จังหวัดน่าน พระสุนทรมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน ประธานดำเนินงานบูรณะปฏิสังขรณ์ฯ คณะสงฆ์จังหวัดน่าน พระชยานันทมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดน่าน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง กรรมการและเลขานุการดำเนินงานบูรณะปฏิสังขรณ์พระมหาธาตุเจ้าฯ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน นายวิจักษณ์ สองจันทร์ ประธานมูลนิธิพุทธภูมิธรรม และพลเอก เอกชัย หาญพูนวิทยา ประธานอำนวยการมูลนิธิพุทธภูมิธรรม
สำหรับปลียอดฉัตรทองคำจะใช้ตามแบบโบราณเดิม ซึ่งช่างได้แกะแบบออกมาแล้วจะใช้ทองคำ 12 กิโลกรัม ขอเชิญศรัทธาสาธุชนร่วมบริจาคทองคำเพื่อหลอมรวมเป็นปลียอดฉัตรทองคำประดับยอดพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง และเป็นการบูรณะครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 100ปี เพื่อเป็นถาวรวัตถุ ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแก่ศรัทธาสาธุชน พุทธศาสนาทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้งเป็นพระธาตุประจำปีเถาะ และปี 2566 นี้ตรงกับปีนักษัตรเถาะ (กระต่าย)
จึงเป็นวาระโอกาสสำคัญยิ่งที่จะขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนมากราบไหว้สักการะและร่วมบุญบูรณะยอดฉัตรทองคำประดับองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา อันเป็นมงคลแห่งชีวิต
นอกจากทองคำแล้ว ประชาชนทั่วไปสามารถร่วมเป็นเจ้าภาพ ได้โดยร่วมทำบุญ ทุก 999 บาท ซึ่งคณะทำงานจะเขียนชื่อ-นามสกุล ลงบนแผ่นทองคำแท้ 1 แผ่น ก่อนนำทองไปหลอมเป็นยอดฉัตรทองคำ หรือร่วมบุญตามกำลังศรัทธาได้ที่ธนาคารกรุงไทย บัญชีออมทรัพย์ เลขบัญชี 5073396596 ชื่อบัญชี "โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรองค์พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง ฯ" พรีอมส่งสลิปการโอนพร้อมชื่อนามสกุลที่ไลน์มูลนิธิพุทธภูมิธรรม Line ID : @bbdf สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 0869822915 เพื่อออกใบอนุโมทนาบัตรให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาต่อไป
นอกจากนี้สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร จะได้นำศรัทธาสาธุชน ร่วมทอดผ้าป่าทองคำ เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคทองคำจัดสร้างยอดฉัตรปลียอดพระธาตุในทุกภูมิภาคของประเทศ อีกด้วย
สำหรับอานิสงส์ในการ บริจาคทองคำ หุ้มพระเจดีย์ด้วยจิตศรัทธา ย่อมได้ชื่อว่าได้บำเพ็ญบุญใหญ่มหาศาล บุญนี้ประกอบขึ้นเพื่อถวายแก่บุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็คือ เพื่อถวายแด่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า การนำทองคำไปหุ้มฉัตรยอดพระมหาเจดีย์นี้เป็นบุญใหญ่ เปี่ยมไปด้วยจิตศรัทธาและกตเวทิตาธรรมทำให้กุศลนั้นยิ่งใหญ่และยืนยาว วัตถุทานที่ใช้ทำบุญคือทองคำอันเป็นธาตุบริสุทธิ์ที่มีคุณค่าสูงยิ่ง โดยพระสปริวารฉัตตทายกว่า“...ผู้ใดถวายฉัตรอันประดับแล้วเป็นที่รื่นรมย์ใจนี้ ด้วยความเลื่อมใสแห่งจิตนั้น ผู้นั้นจะไม่ไปสู่ทฺวคติเลย จักได้เสวยเทวรัชสมบัติในเทวดา 3 ครั้ง จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช 72 ครั้งในแสนกัลป์ ผู้นั้นจักเป็นโอรสผู้รับมรดกในธรรมของพระศาสดาพระองค์นั้น กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักเป็นผู้ไม่มีอาสวะนิพพาน...” จะเป็นผู้ที่มีผิวพรรณผ่องใส จิตใจเบิกบาน สุขภาพแข็งแรง มีโภคะมาก เป็นที่นับหน้าถือตา ได้รับการยกย่อง เป็นผู้มีบริวารมาก เป็นผู้มีอำนาจ เป็นใหญ่เป็นโต ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง หากละโลกนี้แล้วจะมีสุคติเป็นที่ไป
มีตำนานเล่าว่า วัดพระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้งแห่งนี้ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เคยเสด็จฯ มาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านทางทิศตะวันออกที่บ้านห้วยไคร้ และเสวยผลสมอแห้งซึ่งพระยามรณราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่าต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่าพระธาตุแช่แห้ง ต่อมาในสมัยพญาครานเมืองครองราษฎร์ ได้มีการบูรณะ ปฏิสังขรณ์และจัดสร้างพระเจดีย์สูง 55.5 เมตร และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (กระดูกข้อมือข้างซ้าย) มาจากเมืองสุโขทัย ปูชนียวัตถุสำคัญคือ พระเจ้าอุ่นเมือง วิหารพระพุทธไสยาสน์ พระเจ้าทันใจ เป็นต้น เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ในจังหวัดน่านและทุกภูมิภาคของประเทศ การบูรณะปฏิสังขรณ์ ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สร้าง พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้งมา มีการซ่อมแซม บูรณะทุกส่วนขององค์พระธาตุ ขณะนี้รอบองค์พระธาตุได้ปิดทอง คำไปแล้วร้อยละ 80 และคาดว่าจะ ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2566 นี้หลังจากนั้นจะทำพิธียกฉัตรเกิ้ง 12 ชั้น และ ฉัตรทองคำยอดพระธาตุ และทำพิธีฉลองสมโภชตามลำดับ