🐉🐉ลับแลคำชะโนด Official Trailer ฉายวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ในโรงภาพยนตร์
🎬ภาพยนตร์ "ลับแลคำชะโนด" งาน 20 ปีที่รอคอย
"ลับแลคำชะโนด" เรื่องราวอานุภาพความรักต่างสายพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพญานาค, ปริศนาเมืองบังบดที่ปกปิดซ่อนเร้นและความลึกลับของ เกาะคำชะโนด อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
ที่ถูกเขียนขึ้นจากเหตุการณ์ประหลาดเมื่อครั้งที่ผู้เขียนประสบเหตุยางรถยนต์แตกที่ปากทางเข้าเกาะคำชะโนด (วังนาคินทร์) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2542 ซึ่งครั้งนั้นผู้เขียนต้องค้างคืนที่วัดป่าคำชะโนดเพื่อรออะไหล่ซ่อมยาง จนทำให้ ผู้เขียนได้พบกับพระธุดงค์จากฝั่งลาวและได้ฟังเรื่องเล่าของ เมืองบังบดที่เต็มไปด้วยรูปปั้นพระ, มนุษย์ที่มีจิตพญานาค และความรักของมนุษย์และพญานาคสีขาว (นาคี)
จนถึงรุ่งเช้า ผู้เขียนก็ไม่ได้พบพระธุดงค์จากฝั่งลาว ซึ่งเมื่อได้สอบถาม เจ้าอาวาสวัดป่าคำชะโนด ก็ได้รับคำยืนยันว่า ไม่มีพระธุดงค์มาปักกลดที่ วัดป่าคำชะโนด..มีเพียงรอยงูเลื้อยผ่านที่กองไฟใกล้ศาลาวัดที่รถของผู้เขียนจอดรอการซ่อมอยู่?
จึงเป็นที่มาของการเขียนบท “ลับแลคำชะโนด” เรื่องเล่าจาก พระธุดงค์ ซึ่งเขียนบทโดย ปิฏษฎา ทรงกลด (ผู้จัดการดารา ฉายานักปั้น แมวมองตาเพชร) อำนวยการสร้างโดย รายาเมย์ ท้าวใค บริษัทอาร์ทิสสตาร์เอเชีย จำกัด นำแสดงโดย โจ้ ธนากร เสียงเพลิน , โบกี้-จิตรคุปต์ ศิลป์ชัยกิจ, พิมพ์ศราวดี จันทร์อิน, โสภาส ณ ตะกั่วทุ่ง, นภัทร ปั้นเหน่งเพชร, ยุทธพงศ์ คอคง , ร่วมด้วยสิทธิชัย พรุเพชรแก้ว, กัญญภัค รุ่งกาญจนวงศ์, อัครชัย ดวงดารา, วีรินท์ภัค แก้วไพฑูรย์, สิริภพ หมีทอง, ปริษา ประภากวินกุล, โชติวิทย์ สมบูรณ์เสริม และดารานักแสดงชมรมคนศิลปะบันเทิง
👉กำกับการแสดง โดย ผู้กำกับมีชื่อเสียงที่มากับโปรดักชั่นหลายทีม (ขออนุญาตสงวนนาม) แต่เมื่อผู้จัดมองเห็นถึงศักยภาพที่ไม่ลงตัวชัดเจน จึงได้ ยกเลิก ทีม ผู้กำกับและโปรดักชั่นเดิม และได้ดำเนินการถ่ายทำแก้ไขปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเองของทีมผู้จัด 3 ท่าน 1.)นายปิฏษฎา ทรงกลด อาชีพ ผู้จัดการดารา 2.) นายศุภชัย รอดกลาง อาชีพ ผู้จัดการดารา 3.) นางธัญญภรณ์ หมีทอง อาชีพ ครูสอนเทควันโด โดยใช้ความรู้จากการทำงานในวงการบันเทิง ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี และขอคำปรึกษาจากผู้มีความรู้เป็นมืออาชีพ ในการผลักดันภาพยนตร์ จนภาพยนตร์ “ลับแลคำชะโนด” แล้วเสร็จในเดือนมกราคม ปี 2566 รวมระยะเวลา 3 ปี ผ่านช่วงเวลาปัญหาเศรษฐกิจไทยและภัยโควิด โดยใช้ทุนการดำเนินงานสร้างเงินสดจากทีมผู้จัด 5 ล้าน เงินทุนสนับสนุนจากพันธมิตรบริษัทเอกชน 1 ล้าน และมูลค่าสิ่งของ สถานที่ จากพันธมิตรบริษัทเอกชนสนับสนุน 1 ล้าน รวมมูลค่าทั้งสิ้น 7 ล้านบาท..
👉ภาพยนตร์ สายมู “ลับแลคำชะโนด” ได้เปิดฉายรอบแรกเป็นหนังกลางแปลง ในวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2566 เวลา 19.00-21.00 น. โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ นายอำเภอบ้านดุง เป็นประธานในพิธีเปิดงานซึ่งมีพี่น้องประชาชนอำเภอบ้านดุงและใกล้เคียงให้ความสนใจเข้าชมมากกว่า 500 คน จนมีกระแสว่า หนังแก้บนที่มีชื่อเสียงโด่งดังหลายเรื่องที่เคยฉายที่คำชะโนด ไม่เคยมีผู้ชมมากมายมาชม เหมือนเช่น ภาพยนตร์ “ลับแลคำชะโนด” และถูกมองว่า บางท่านที่มาชมนั้น อาจไม่ใช่มนุษย์
👉เรื่องอัศจรรย์ เหลือเชื่อ ในวันฉายหนังกลางแปลงรอบปฐมฤกษ์ ซึ่งเป็นวันที่กรมอุตุได้แจ้งถึงสภาพฝนฟ้าว่าจะตกในเวลาที่ภาพยนตร์ฉาย 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ อำเภอบ้านดุง แต่ วันเวลานั้น ไม่มีฝนตก มีแต่พระจันทร์เต็มดวงขึ้นสวยงามบนท้องฟ้าและมีลายเมฆเหมือนเกล็ดพญานาคปกคลุมท้องฟ้าทั่วคำชะโนด.. ซึ่งผู้ชมก็มีมากเป็นประวัติการณ์แตกต่างจากภาพยนตร์ที่เคยมาฉายทั่วไป .. และความอัศจรรย์ก่อนฉายก็ยังเป็นที่ถูกกล่าวถึงมากเมื่อทราบจากทีมงานว่า ก่อน 15 นาทีที่จะฉายภาพยนตร์ ไม่สามารถเปิดฉายได้เพราะเครื่องฉายหนังกลางแปลงไม่รองรับระบบ 4k ที่ทางผู้จัดนำภาพยนตร์มา หรือแม้แต่แก้ไขด้วย
การฉายผ่านโน๊ตบุ๊คก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากระบบเครื่องไม่อัพเดท แต่เมื่อเจ้าของหนังกลางแปลงและ พราห์มผู้ทำพิธีได้อธิษฐานขอ พ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมานาคิณี ภาพยนตร์ก็สามารถฉายได้อย่างทันทีจนฉายจบ ระบบการฉายก็ตัดไม่สามารถเข้าระบบได้อีก..
👉คำบอกเล่าของผู้ชม ภาพยนตร์“ลับแลคำชะโนด” ในคืนนั้น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า หนัง “ลับแลคำชะโนด” ถ่ายทอดความเป็นคำชะโนดหรือ “วังนาคินทร์” ได้อย่างสมบูรณ์ มีเนื้อเรื่องเรียบง่าย, มีมุมมองให้คิด, ฉากโลเคชันสวยอลังการ, การเดินเรื่องลุ้นให้ติดตามเหมือนมีมนต์สะกดในขณะที่นั่งชมตลอดเวลา 82 นาที และเพลงประกอบก็ตื่นเต้นเร้าใจจนทำให้ไม่สามารถละสายตาจากการดูหนังได้.. ดูหนัง ลับแลคำชะโนด แล้วมีความสุข เหมือนได้รับพรจากคำชะโนด และ อยากให้หนังยาวกว่านั้น หรือมีภาค 2
👉ภาพยนตร์ สายบุญ “ลับแลคำชะโนด” ทีมผู้สร้าง ได้มองเห็นปัญหาความยากจนของเยาวชนมากมายในประเทศในขณะที่ถ่ายทำ จึงยินดีมอบรายได้ส่วนหนึ่งจากภาพยนตร์เพื่อสนับสนุนเยาวชนไทยในด้านการศึกษาแก่เด็กนักเรียนยากจน, ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วในหลายจังหวัด อาทิ โรงภาพยนตร์ SF เซ็นทรัลลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร , โรงภาพยนตร์ SF บิ๊กซี จังหวัดสระแก้ว
👍👍High light👍👍
ภาพยนตร์ไทยที่เป็น Soft Power ของประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ ใช้สถานที่สำคัญในประเทศไทย ที่มีความสวยงาม มีการอนุรักษ์ มีประวัติศาสตร์เรื่องเล่ามาร้อยเป็นเรื่องราวตามนิมิต จินตนาการ และถ่ายทำนำเสนอการท่องเที่ยว ธรรมชาติ ความศรัทธา บนจอภาพยนตร์ มากกว่า 80 % อาทิ
👉ภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย
👉ภาคกลาง กรุงเทพ นครนายก ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี
👉ภาคอิสาน อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ เลย นครพนม สกลนคร นครราชสีมา บุรีรัมย์
ภาพยนตร์ไทยที่ใช้ CG มากที่สุดบนจอภาพยนตร์ โดยฝีมือคนไทย
👉ภาพยนตร์ที่เลือกนักแสดงนำ (Casting selects actors) ซึ่งเหลือเชื่อหากจะกล่าวว่า
พญานาคเป็นผู้เลือก นักแสดงมารับบทสำคัญ อาทิ
ตัวละคร อติวัฐ ศรีบดินทร์ (มนุษย์ที่มีความรักกับ นาคี)
เริ่มต้นเคยมีการคัดเลือกนักแสดงหลายท่าน เช่น ศตวรรษ เศรษฐกร, ภาณุ สุวรรณโณ, โพลา ชยาพล อินทรวงศ์, ฉันทวิชช์ ธนเสวีย์, เอกภัทร รัตนปัญญา, ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา, วรปรัชญ์ เรืองกนกศิลป์ และในปี 2564 ได้ ธนากร เสียงเพลิน มารับบทเป็น อติวัฐ
👉ประวัติ ธนากร เสียงเพลิน โจ้ เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2542 ปัจจุบันอายุ 24 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เป็นชาวจังหวัดสมุทรสาคร แต่มี ภูมิลำเนาเดิมตามทะเบียนของบิดามารดา ณ อำเภอบ้านดุง คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี ซึ่งภายหลังเชื่อกันว่า พญานาค เลือกลูกหลาน ในพื้นที่มารับบทสำคัญตามคำบอกเล่าของพระธุดงค์ ซึ่งวันเกิดของ ธนากร เสียงเพลิน คือวันเดียวกับที่
ผู้เขียนบทได้พบกับ พระธุดงค์ ซึ่งเรื่องราว ภูมิลำเนาเกิดของ โจ้ ไม่มีทีมงานทราบ ตั้งแต่เริ่มต้นการเปิดแคสติ้งในปี 2562 แต่มาทราบภายหลังในวันที่ โจ้ ต้องรับการคัดเลือกทหาร ในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีปัญหามากมายระหว่างถ่ายทำ มีการเปลี่ยนนักแสดงหลายครั้งรวมถึงภัยโควิด 19 และท้ายสุด บท พระเอกสำคัญคือ โจ้ ธนากร เสียงเพลิน
👉คำทำนายว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะสร้างไม่สำเร็จ มีการพยายามสร้างหลายครั้ง ตั้งแต่ปี 2550
แต่ไม่สำเร็จ ด้วยคำทำนายว่า หลังได้รับนิมิต 20 ปี จะสร้างได้สำเร็จ และต้องหลังจากมีน้ำท่วมใหญ่ที่
คำชะโนด เท่านั้น และหากได้มีการสร้างแล้ว ในระหว่างถ่ายทำจะมีปัญหามากมาย ทั้งภัยพิบัติ
สงคราม การขัดแย้ง โรคภัยใหญ่ .. เพราะเป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าลักษณะ เมืองต้องห้าม เขตแดน
พรหมประกายโลก หรือเมืองบังบด ซึ่งคำทำนายนี้ได้รับการพยากรณ์จากพระธุดงค์ในวันที่ผู้เขียน
ได้นิมิต และภาพยนตร์ “ลับแลคำชะโนด” ได้ เปิดกล้อง วันที่ 20 ตุลาคม 2562 หลังจากเหตุการณ์น้ำ
ท่วมใหญ่ที่คำชะโนดในปี 2560 ตามคำทำนายที่ถูกกล่าวไว้
👉ภาพยนตร์ “ลับแลคำชะโนด” ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ดีสมบูรณ์ที่สุด แต่เป็นภาพยนตร์ ที่มีความตั้งใจทำตามความเชื่อ และสร้างเพื่อวัตถุประสงค์ บอกเล่าลูกหลานถึงตำนานเมืองพญานาค เมืองที่ไม่มีใครมองเห็น เป็นเมืองบังบด ไม่ต่างจากโลกมนุษย์ และสนับสนุนให้สายบุญได้ร่วมกันทำสิ่งดี สร้างสรรค์ทำการดีสู่เยาวชน ลูกหลาน โดยเฉพาะการศึกษาของเด็กยากจน, เด็กผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ทั่วประเทศ ตอบโจทย์ การรักถิ่นเกิด การคิดดีทำดี การมีความเชื่อ ศรัทธา การไม่งมงาย แต่สร้างจิตสำนึกให้ยึดมั่นในความดีเพื่อสังคม
ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมชมภาพยนตร์ไทย “ลับแลคำชะโนด”
รายได้ทุก 1 บาทจากบัตรชมภาพยนตร์ 1 ท่าน คือเงินบริจาคสนับสนุน การศึกษาของผู้ด้อยโอกาสทางสังคมและเด็กยากจนทั่วประเทศ
“ลับแลคำชะโนด” มีกำหนดฉาย 23 พฤศจิกายน 2566 ในโรงภาพยนตร์
ลิ๊งค์ตัวอย่างภาพยนตร์บนยูทูป
https://youtu.be/_mbIYNtsT-U?si=2UTXRUkb34nuuusT
ติดต่อ สอบถามเพิ่มเติม 065-5625992 คุณชัย ศุภชัย