โฆษกเกษตร เผย ชาวสวนทุเรียนเตรียมพร้อม ดันทุเรียนคุณภาพส่งจีน “ธรรมนัส” สั่งคุมเข้มตลอดห่วงโซ่อุปทาน เสริมแกร่งสู้ประเทศคู่แข่ง
นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยถึงสถานการณ์ส่งออกทุเรียนไทยไปยังตลาดประเทศจีน ในปี 2567 ยังคงมีช่องทางการตลาดที่สดใส แม้ปัจจุบันทุเรียนไทยต้องเผชิญกับความท้าทายในการส่งออกไปยังตลาดจีน จากการแข่งขันของประเทศคู่แข่ง โดยล่าสุด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สั่งการให้กรมวิชาการเกษตร เร่งดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ควบคุมคุณภาพทุเรียนส่งออกไปจีนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ทั้งในส่วนของนโยบาย สวน โรงคัดบรรจุ การส่งออก การขนส่ง การตลาด การแปรรูป และการเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการ พร้อมกันนี้ยังได้วางแผนขยายผลไปยังทุกภูมิภาคที่ผลิตทุเรียนเพื่อส่งออก และได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ สวพ.6 และศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรีกว่า 180 คน เพื่อสลับเปลี่ยนหมุนเวียนทำหน้าที่ ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนสิ้นสุดฤดูกาลส่งออก และเพิ่มผู้จัดการเขตพื้นที่ทุเรียน (DIZ) จากเดิม 6 คน เพิ่มเป็น 9 คน พร้อมจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด หากพบการสวมสิทธิ์ใบรับรอง GAP หรือการให้เช่าโรงคัดบรรจุพร้อมกับใบรับรอง GMP-DOA เป็นต้น ”
โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ให้ความสำคัญอย่างมากกับการส่งเสริม สนับสนุน การส่งออกสินค้าเกษตรคุณภาพไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะทุเรียน ที่เป็นไม้ผลเศรษฐกิจสำคัญ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การนำของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ใช้แนวนโยบาย ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เป็นธงนำในการสร้างรายได้ และขยายโอกาสให้ภาคเกษตร มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรเป็น 3 เท่าภายใน 4 ปีของรัฐบาล จึงเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาภาคเกษตร ที่ช่วยเสริมจุดแข็งในการด้านการตลาด จากการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ
ทั้งนี้ สถิติการส่งออกทุเรียน ปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมาไทยส่งออกทุเรียนไปจีนทั้งหมด 57,000 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณสูงถึง 945,900 ตัน มูลค่า 120,469.34 ล้านบาท โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากจากปี พ.ศ. 2565 สูงถึงร้อยละ 38.47 (ปี พ.ศ. 2565 ส่งออกทุเรียนไปจีน 8.11 แสนตัน มูลค่ากว่า 8.7 หมื่นล้านบาท) สำหรับช่องทางการส่งออก พบว่ารถยนต์มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 63.9 รองลลงมาคือทางเรือ ร้อยละ 31.72 และทางรถไฟ ร้อยละ 1.17