“อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ปลุกขวัญกำลังใจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ทั่วประเทศ เนื่องในปีมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา และในโอกาสครบรอบ 132 ปี วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ‘คนของราชา รากฐานของแผ่นดิน’
วันที่ 8 สิงหาคม 2567 : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดพิธีมอบเหรียญพระราชทาน ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 277,000 คน และพิธีมอบรางวัลกำนัน ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจำปี 2567 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ มีผลงานดีเด่น ดูแลทุกข์สุขของประชาชนในระดับพื้นที่อย่างเข้มแข็ง จำนวน 264 คน
ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันที่ 10 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน วันที่เราเชิดชูเกียรตินักปกครองท้องที่
ซึ่งในปีมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา และในโอกาสครบรอบ 132 ปี ‘คนของราชา รากฐานของแผ่นดิน’ กระทรวงมหาดไทย
ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต จัดทำเหรียญพระราชทานแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
โดยจัดพิธีรับมอบเหรียญพระราชทานให้แก่นักปกครองท้องที่ทั่วประเทศ และพิธีมอบรางวัลกำนัน ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจำปี 2567 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นสิริมงคล ซึ่งถือเป็นเกียรติยศอันสูงส่ง สถาบัน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นรากฐานสำคัญของแผ่นดินและเป็นตัวแทนของรัฐ
ที่ทำงานใกล้ชิด บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนมาตลอด 132 ปี ช่วยขับเคลื่อนผลักดันนโยบายของรัฐ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ
กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดพิธีมอบรางวัล
“กำนัน ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม” ประจำปี 2567 เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ปฏิบัติภารกิจหน้าที่ ด้วยความตั้งใจ เสียสละ ทุ่มเทความรู้ความสามารถในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน และยังสร้างขวัญกำลังใจ สร้างเสริมทัศนคติในการปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกต้องและดีงาม ให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม
ในปีนี้ถือเป็นวาระพิเศษที่สถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี
ต่อพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยกระทรวงมหาดไทย ได้ขอพระบรมราชานุญาตจัดทำเหรียญพระราชทาน เพื่อมอบให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั้งสิ้น 277,000 คนทั่วประเทศ
พร้อมเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด ร่วมแสดงความจงรักภักดี โดยกระจายผ่านนายอำเภอทั่วประเทศ เพื่อนำเหรียญพระราชทานดังกล่าวไปมอบให้ถึงมือนักปกครองท้องที่ ในวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2567 อีกครั้งหนึ่ง
“ขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับรางวัลในปีนี้ และขอขอบคุณที่ทุกคนได้อุทิศตน และเสียสละทุ่มเทในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อความเป็นสุขของประชาชน โดยเฉพาะ
การเป็นตัวแทนของภาครัฐที่จะส่งต่อและสร้างความเข้าใจในนโยบายการขับเคลื่อนของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ทั้งในด้านการพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญอย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และการประกอบอาชีพมั่นคง ส่งเสริมอาชีพในชุมชน การรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้เกิด
ความสามัคคีในชุมชน และร่วมกันปกป้องและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันที่คนไทยเทิดทูน ดังนั้นขอให้ทุกคนตั้งใจปฏิบัติงานตามภารกิจหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อให้ชุมชน หรือหมู่บ้านของตนเอง มีความเจริญก้าวหน้า พร้อมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นที่พึ่ง และแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับเหรียญพระราชทานในครั้งนี้
โดยนายมนตรี ธนสิทธิ์สุนทร กำนันตำบลแม่พริก อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง หนึ่งในกำนันยอดเยี่ยม ประจำปี 2567 กล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและเป็นเกียรติสูงสุด ที่ได้รับเหรียญพระราชทานในครั้งนี้ เพราะการปกป้องราษฎรจากสิ่งอันตราย เป็นบทบาทหน้าที่
ของกำนัน รวมถึงการดูแลช่วยเหลือในด้านการปกครอง การพัฒนา และการดำรงชีวิต
ในครอบครัว ให้อยู่ดีกินดีอย่างมีความสุขตลอดไป เช่นเดียวกับนายสมหมาย บุญสว่าง กำนันตำบลท่าโพธิ์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา กำนันยอดเยี่ยม ประจำปี 2567 อีกท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ผลักดันแผนการรักษาความปลอดภัยบนเส้นทางรถไฟ สร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชน
กล่าวเช่นกันว่า การรักษาความปลอดภัยของชาวบ้านคือหน้าที่สำคัญ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ ที่คอยให้คำแนะนำ และยังเป็นเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษากับชาวบ้าน
ถือเป็นความภูมิใจที่ได้ดูแลทุกข์-สุขของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด การทำงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน การที่ได้รับพระราชทานเหรียญพระราชทานดังกล่าว จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงสุดของนักปกครองท้องที่