ภายหลังอัยการมีคำสั่งฟ้องหมอบุญ วนาสิน กับ พวก ในข้อหาฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และแชร์ลูกโซ่ ไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ดังปรากฎตามข่าวที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ประธานณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ นายกสภาสมาคมธรรมาภิบาล ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต เปิดเผยว่า “ต้องไปดูที่นิติเหตุในมูลฐานความผิดคดีนายแพทย์บุญ วนาสิน ตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นว่า จุดเริ่มต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น มีเพียงนายแพทย์บุญ วนาสินกับพวกซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในขณะนี้เท่านั้นหรือไม่ กลไกของการดำเนินการในลักษณะการฉ้อโกงประชาชนร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และแชร์ลูกโซ่ โดยเป็นบริษัทในการกำกับของตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ต้องไปไล่ดูตั้งแต่โบรกเกอร์ต่าง ๆ ต้องแยกส่วนของผู้ที่เสียหายอย่างแท้จริงแยกออกกับเจ้าหนี้ที่ได้ผลประโยชน์ต้องนำสืบให้สิ้นกระแสความว่ามีหลักฐานที่ปรากฎของการมีส่วนร่วมหรือไม่ ดังนั้น องค์ประกอบสำคัญเพิ่มเติมต้องดำเนินการทางด้าน เส้นทางการเงิน ตัวของสัญญา อัตราดอกเบี้ยของที่ผู้ได้รับประโยชน์
ณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ กล่าวต่ออีกว่า “ในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ตนเองและ ดร. แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ซึ่งถือว่าเป็นประธานส่งเสริมธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต ของสภาสมาคมธรรมาภิบาล มูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต จะได้ยื่นหนังสือถึง ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งเรื่องไปถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของโบรกเกอร์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในแง่ของบริษัท จำกัด(มหาชน) หรือไม่อย่างไร หรือเห็นควรให้ระงับใบอนุญาตไว้ก่อนหรือไม่ ทั้งยังต้องส่งเรื่องไปถึง กรมสรรพากร ในแง่ของอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เริ่มทำนิติกรรมจนถึงการแจ้งข้อกล่าวหา”
นายกสภาสมาคมธรรมาภิบาล ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจากนี้ยังขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งเรื่องไปยัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. เพื่ออายัดบัญชีในส่วนที่นิติสัมพันธ์ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ไม่ได้เป็นผู้เสียหายอย่างแท้จริงและเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ เพื่อรวบรวมทุกๆนิติเหตุพร้อมหลักฐานต่าง ๆ ส่งให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI. ดำเนินการเรียกสอบปากคำและหากพบเป็นผู้เข้าข่ายมีส่วนร่วมและได้รับผลประโยชน์ก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ คดีนี้เนื่องจากมีผู้เสียหายที่แท้จริง จำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายมีมากกว่า16,000,000,000 บาท”